แพทย์จะทำการวินิจฉัยโรคกรดไหลย้อนจากอาการที่กล่าวมา หากปฏิบัติตามคำแนะนำหรือรับการรักษาเบื้องต้นแล้วอาการไม่ดีขึ้น อาจจำเป็นต้องได้รับการวินิจฉัยพิเศษเพิ่มเติม เช่น
การส่องกล้องทางเดินอาหาร
การเอกซเรย์กลืนสารทึบแสง
การตรวจทางเวชศาสตร์นิวเคลียร์
การตรวจการบีบตัวของหลอดอาหาร
การตรวจวัดความเป็นกรด-ด่างในหลอดอาหาร ซึ่งให้ผลที่ไวในการวินิจฉัยโรคที่สุด
การปฏิบัติตัวโรคกรดไหลย้อน
ผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ส่วนใหญ่มักมีอาการไม่มาก สามารถรักษาได้โดยการเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิตดังต่อไปนี้
ระวังน้ำหนักตัวไม่ให้มากหรืออ้วนเกินไป
หลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ น้ำอัดลม น้ำผลไม้ หรืออาหารที่มีรสเปรี้ยวจัด เผ็ดจัด อาหารไขมันสูง ช็อกโกแลต
หลีกเลี่ยงการดื่มสุราและการสูบบุหรี่
หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารมื้อเย็นปริมาณมาก และไม่ควรนอนทันทีหลังรับประทานอาหารอย่างน้อย 4 ชั่วโมง
ไม่ใส่เสื้อผ้ารัดรูปหรือรัดเข็มขัดแน่นจนเกินไป
ควรรับประทานอาหารปริมาณน้อยแต่บ่อยครั้ง
ปรับหรือหนุนหัวให้สูงอย่างน้อย 6 นิ้ว
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
พยายามหลีกเลี่ยงความเครียด